ดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากของมนุษย์ ดังนั้นสุขภาพตาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องให้การดูแล ยิ่งในปัจจุบันมีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคตาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากรูปแบบการใช้ชีวิตและการใช้ดวงตาที่มากเกินกว่าปกติ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่เราจะต้องทำความรู้จักโรคเกี่ยวกับดวงตาเพื่อจะได้มองหาแนวทางป้องกันและบำรุงรักษา ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค ทั้งนี้โรคตาที่พบเจอได้มากได้แก่ตาเป็นต้อ อาทิเช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน ต้อกระจก และต้อลม เป็นต้น
มารู้จักโรคเกี่ยวกับดวงตา ต้อเนื้อ ต้อหิน ต้อกระจก ต้อลม กันเถอะ
- ต้อลม (pinguecula) เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเยื่อบุตาขาว ทำให้เยื่อบุตาขาว ข้างกระจกตาดำ มีแผ่นหรือตุ่มนูนสีออกเหลืองเกิดขึ้น โดยส่วนใหญ่มักเกิดที่หัวตาด้านในใกล้จมูก หรือเกิดที่หางตา และอาจเกิดได้ทั้งด้านหัวตาและหางตาพร้อมกัน
อาการของต้อลม โดยส่วนมากผู้ที่เป็นต้อลมจะยังไม่มีอาการใดใด เพียงแต่สังเกตเห็นได้ว่ามีเนื้อเยื่อเกิดขึ้นที่ดวงตา แต่หากต้อลมมีการอักเสบ จะรู้สึกแสบตา ระคายเคืองตา มีน้ำตาไหล และมีขี้ตาค่อนข้างมากในช่วงเช้า
สาเหตุการเกิดต้อลม ต้อลมเกิดจากการที่ดวงตาสัมผัสกับแสงแดด รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยปราศจากการป้องกัน เกิดจากสภาวะตาแห้งขาดน้ำหล่อเลี้ยงดวงตา หรือการอยู่ที่สถานที่ที่มี ฝุ่นละออง ควัน ลม ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองดวงตา
การรักษาเมื่อเป็นต้อลม เมื่อเกิดการอักเสบ หยอดด้วยยาหยอดตา เพื่อแก้อักเสบ และควรหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งเสริมให้ระคายเคือง เช่น สวมแว่นตากันแดด กันลม
- ต้อเนื้อ (pterygium) ต้อเนื้อมีลักษณะเป็นแผ่นพังผืดและหลอดเลือดคล้ายเนื้อเยี่อสีขาวออกแดงกระจายจากตาขาวลามเข้าไปบนกระจกตาดำ ทำให้เป็นอุปสรรคในการมองเห็น ทั้งนี้ ต้อเนื้อจัดเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงของเยื่อบุตาขาว
อาการของต้อเนื้อ หากยังเป็นไม่มาก จะไม่ส่งผลใดใดคล้ายกับต้อลม แต่ในกรณีที่เป็นมาก ต้อเนื้อจะลุกลามเข้าไปกลางกระจกตา ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการตามัว บดบังการมองเห็น และอาจเกิดอาการสายตาเอียงได้
สาเหตุการเกิดต้อเนื้อ เกิดจากการสั่งสมอาการจากต้อลม ที่ดวงตาถูกรบกวนด้วยสิ่งระคายเคืองมาเป็นเวลานานหลายปี จนเกิดเป็นผังผืด
การรักษาเมื่อเป็นต้อเนื้อ ถ้าก้อนเนื้อของต้อโตมาก จะต้องทำรักษาด้วยการผ่าตัดออก
- ต้อกระจก (Cataract) เป็นภาวะที่เลนส์แก้วตา (Lens) สูญเสียสภาพความโปร่งแสง เกิดการขุ่นมัวภายในแก้วตา ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง จนอาจจะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็น
อาการของต้อกระจก ผู้ที่ป่วยจะเกิดสภาวะตามัว โดยตาจะมัวลงเรื่อยๆทีละน้อย โดยไม่รู้สึกปวดหรือระคายเคืองในดวงตา มักเกิดอาการตามัวในที่แจ้ง และมองเห็นชัดในที่ร่ม หรือตามองเห็นภาพซ้อน
สาเหตุของต้อกระจก เกิดจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตา ซึ่งโดยส่วนมากเป็นไปตามวัย หรืออาจจะเสื่อมเร็วกว่าวัยอันควรหากได้รับแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงแดดมากเกินไป หรือการได้รับยาสเตียรอยด์ขนาดสูงนานๆ และอาจมีสาเหตุจากพันธุกรรม หรือโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน
การรักษาเมื่อเป็นต้อกระจก มักจะรักษาโดยการการผ่าตัดเอาเลนส์แก้วตาที่ขุ่นออก และใส่แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่
- ต้อหิน(glaucoma) เป็นกลุ่มโรคที่มีการเสื่อมของขั้วประสาทตา มีความผิดปกติในการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงลูกตา ทำให้ความดันตาสูงขึ้น และเกิดการทำลายประสาทตาตามมา ส่งผลให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น และเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะตาบอดที่เกิดขึ้นทั่วโลก
อาการของโรค ต้อหินมีหลายชนิด ในแต่ละชนิดจะมีอาการที่แตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดอาการ สูญเสียการมองเห็นอย่างช้าๆ เพราะประสาทตาถูกทำลาย หรือมีอาการปวดศีรษะ ปวดตาอย่างเฉียบพลัน รุนแรง ตามัว ตาแดง น้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ เห็นแสงสีรุ้งรอบดวงไฟ
สาเหตุของต้อหิน เกิดจากระบบการไหลเวียนของน้ำหล่อเลี้ยงตาผิดปกติจนทำลายขั้วประสาทตา ซึ่งอาจมีสาเหตุจาก พันธุกรรม การประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับดวงตา การใช้ยาเสตียรอยด์ หรือ โรคประจำตัว อาทิ เบาหวาน
การรักษาเมื่อเป็นต้อหิน รักษาโดยการหยอดตา กินยาเพื่อลดความดันในลูกตา ทำเลเซอร์ หรือการผ่าตัด
แนวทางในการดูแลรักษา บำรุงสายตาเพื่อชะลอการเป็นต้อและโรคเกี่ยวกับดวงตาอื่นๆ
- ลดการใช้มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ในระยะเวลาที่นานเกินไป เนื่องจากแสงจากคอมพิวเตอร์และมือถือนั้นเป็นอันตรายต่อดวงตา ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องใช้ ควรพักสายตา ประมาณ 5-10 นาทีต่อการทำงานคอมพิวเตอร์ 1 ชั่วโมง เพื่อคลายการปวดเมื่อยล้าตาได้
- ควรปกป้องสายตาจากรังสีอัลตราไวโอเลต หรือแสงแดด โดยการหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงด้วยการสวมแว่นตากันแดด กันลม กันฝุ่นผงทุกครั้ง
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะการออกกำลังกายมีส่งผลให้มีสุขภาพดวงตาที่ดี ป้องกันอาการความดันโลหิตสูง ป้องกันโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อในดวงตาประเภทต่างๆ
- ทานอาหารบำรุงสายตา อาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการบำรุงสุขภาพสายตา สารอาหารที่จำเป็นสำหรับสุขภาพตาได้แก่ Lutein และ Zeaxantein ที่ช่วยป้องกัน และชะลอการเป็นต้อกระจก และวิตามินซี วิตามินอี และธาตุเหล็ก ช่วยลดอัตราความเสี่ยงสำหรับอาการจอประสาทตาเสื่อม
- ทานวิตามินบำรุงสายตา หากเกิดอาการที่ไม่ปกตินักในการมองเห็น หรือไม่มั่นใจว่าทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนหรือไม่สำหรับดวงตา การทานวิตามินบำรุงสายตา ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อและโรคเกี่ยวกับตาได้ดี ปรึกษาฟรี คลิ๊กที่นี่
จะเห็นได้ว่าโรคเกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ต้อเนื้อ ต้อหิน ต้อกระจก หรือ ต้อลมนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกวัย และมีสาเหตุสำคัญมาจากการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถป้องกันดูแลหรือชะลอการเกิดโรคได้ด้วยการเอาใจใส่ต่อสุขภาพ ออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์ ดังนั้นเราทุกคนจึงควรหันมาใส่ใจ บำรุงรักษาดูแลดวงตาเพื่อป้องกันการเกิดโรคตากันดีกว่าค่ะ